仏教徒の心情 จิตใจชาวพุทธ

最新ニュースから注目を集めている記事

心を明るくし、気持ちを落ち着かせてしっかりと読んでください。

 

コラム :仏教徒の心情

2017年2月22日0時30分

 

四千人もの警察・軍隊を動員した今回の軍事行動はまさに苛烈を極めています。

タンマチャヨー元住職の身柄を確保するためにタンマガーイ寺院を隅々まで捜索しました。

暫定憲法44条を発令し、タンマガーイ寺院を含む周辺地域を特別管理区域に指定しました。

警察・軍には立ち入りを制限し、退去命令や捜索の権限が与えられています。

さらには公益事業や通信事業を制限する権限もあります。つまりは電気や水道の供給を停止させることができるということです。

 

少しさかのぼって、タンマチャヨー元住職が何で起訴されたのかを確認してみましょう。

反逆罪やテロ活動を行なっているとか、ギャングを作って道路を封鎖し、三角コーンを置いてそれに触ったら半殺しにするとか。

それでも起訴から逃れたりとか、さらにはその三角コーンを怪しい集団に崇拝させるとか。

そんなことはしていません。

発端はクロンチャン信用協同組合の横領金を小切手で受け取ったとして、盗品を受け取ったおよびマネーロンダリングに加担した罪を着せたのです。

その後の警察の捜査によって、寺院およびタンマチャヨー元住職の起訴内容は308件にもおよびます。

 

それらの大小に関わらず、事件となったことで正義を掲げる当局が容疑者を拘束し、捜査を進めなければなりません。

この三日間、隅々まで捜索しましたがタンマチャヨー元住職を発見するに至りませんでした。

普通ならここで捜索を打ち切るはずが、さらには強制退去を言い渡され、14人の僧侶に出頭命令が下されました。

それ以外にも100人大隊を13部隊増員し、僧侶および信者との衝突が起きました。

それでは飽きたらず、いやおうなしにでも退去させるためにライフラインを断つと脅してきました。

これらは世間にやり過ぎなのではないかという疑問を抱かせるようになりました。

 

もしもこれが一般の家で起きたとしましょう。家宅捜索が行われ、容疑者が見つからず、今度は住人全員の強制退去を命じられます。

それに反対すれば電気や水道の供給を止め、さらには出頭するように言われるのです。

それはまるでオオカミに出くわした仔羊の物語を読んでいるかのようです。

以上のことが今お寺に住まう僧侶や数多くの無関係な人達の身に起きていることです。

これほどの事態に仏教徒達は何を感じているのでしょうか。

 

บทความน่าสนใจในสถานการณ์ปัจจุบันจาก ข่าวสด
รักษาใจให้ผ่องใส. รักษาอารมณ์ให้สงบนิ่ง อ่านด้วยเมตตาจิตกัน

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม : จิตใจชาวพุทธ
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 – 00:30 น.

รุก กลางกระดาน

ดุเดือดเลือดพล่านจริงๆ สำหรับยุทธการจัดกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 4 พันนาย บุกตรวจค้นทุกตารางนิ้วในวัดพระธรรมกายเพื่อหาตัวพระธัมมชโย โดยประกาศใช้มาตรา 44 ให้พื้นที่วัดพระธรรมกาย เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ เจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ควบคุมการเข้าออกพื้นที่ ใช้อากาศยานไร้คนขับ เข้าตรวจสอบ ถึงขั้นสามารถควบคุมสาธารณูปโภค ระบบสื่อสาร ซึ่งก็คือสามารถตัดน้ำตัดไฟ ได้ทั้งหมด

ชวนให้ต้องย้อนกลับไปดูว่าที่แท้พระธัมมชโยถูกข้อหาใดกันแน่ จะเป็นข้อหากบฏ ก่อการร้าย ตั้งแก๊งอั้งยี่ เป็นอันธพาลปิดถนน สถาปนากรวยศักดิ์สิทธิ์ ที่ใครบังอาจแตะต้อง ต้องถูกลูกสมุนรุมกระทืบจนปางตาย แถมลอยตัว ไม่ถูกดำเนินคดีใดๆ แถมยังมีคนพิลึกไปกราบไหว้บูชา ก็ไม่ใช่!?? แต่เป็นคดีที่เริ่มต้นด้วยถูกแจ้งข้อหารับของโจรและฟอกเงิน จากการรับเช็คบริจาค ที่เป็นเงินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สอบสวนและประเคนข้อหาให้ทั้งวัดและพระธัมมชโย เบ็ดเสร็จ 308 ข้อหา

แน่นอนไม่ว่าเป็นข้อหาเล็กหรือใหญ่ แต่เมื่อเป็นคดี บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้ถือความยุติธรรมเป็นที่ตั้งก็ต้องติดตามนำตัวมาดำเนินคดีให้ได้ แต่หลังจากปฏิบัติการ 3 วัน ค้นวัดหมดทุกโซนที่กำหนดไว้ ก็ไม่เจอตัวพระธัมมชโย แทนที่จะยุติปฏิบัติการ กลับมีคำสั่งให้คนออกจากวัด ให้พระ 14 รูปไปรายงานตัวกับอธิบดีดีเอสไอ แถมเพิ่มกำลังอีก 13 กองร้อยตั้งประจันจนเกิดปะทะจนทั้งโยมทั้งพระสะบักสะบอม กันไปตามๆ กัน อีกทั้งขู่ตัดน้ำตัดไฟ เพื่อให้ทุกคนจำยอม

ก็เริ่มทำให้สังคมตั้งคำถามว่าเป็นการกระทำที่มากเกินไปหรือไม่ หากเปรียบเทียบกับบ้านของคนธรรมดา ถ้าเจ้าหน้าที่บุกค้น ไม่เจอผู้ต้องหา แต่สั่งให้คนในบ้านออกไปให้หมด ไม่งั้นจะตัดน้ำตัดไฟ เรียกไปรายงานตัว ก็รู้สึกเหมือนกำลังนั่งอ่านนิทานลูกแกะเจอหมาป่า นี่ยิ่งมีสภาพเป็นวัด ที่มีพระจำวัด และไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพระธัมมชโยอีกจำนวนมาก ถูกกระทำกันขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าชาวพุทธจะรู้สึกกันอย่างไร

 

 

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม  หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560

https://www.khaosod.co.th/newspaper-column/relevant/news_227444